ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นที่น่าเสียดายอย่างมากที่ทางลิเวอร์พูลไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ ทั้งที่ตลอดฤดูกาลที่ขับเคี่ยวกันมาตลอด หงส์แดงประสบกับความพ่ายแพ้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น แต่เรื่องที่ผ่านไปแล้วเราก็ไม่สามารถย้อนวันวานกลับไปแก้ไขอะไรได้ เราเลยอยากพาทุกคนไปตามหาเหตุผลที่พอจะนำมาสนับสนุนได้ว่า อะไรคือไฮไลท์ลิเวอร์พูลที่ยังขาดหายไปในการที่จะพาสโมสรกลับมาโบยบินอยู่บนจุดสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง

ผู้ช่วยปลดล็อกยามที่รูปเกมอึดอัด

            นับตั้งแต่การเดินจากไปของฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ตัดสินใจอำลาถิ่นแอนฟลด์ ก็ต้องยอมรับว่าจุดเด่นที่เป็นดั่งไฮไลท์ลิเวอร์พูลในเรื่องของการลุ้นทำประตูจากบริเวณนอกกรอบเขตโทษนั้น ได้สูญหายตามดาวเตะชาวบราซิลไปเสียดื้อ ๆ

            จากสถิติการลงเล่นตลอดฤดูกาลสุดท้ายที่คูตินโญ่ทำไว้ก่อนจะย้ายไปอยู่กับทางสโมสรบาร์เซโลน่านั้น คือการจัดการซัดประตูคู่แข่งไปทั้งสิ้น 7 ประตู และแอสซิสต์ไปอีก 6 ประตู รวมถึงอัตราการยิงประตูเฉลี่ยต่อเกม 3.9 ครั้ง และจ่ายสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมเฉลี่ยถึง 2.9 ครั้งต่อเกม โดยทั้งหมดหมดที่พูดถึงเกิดขึ้นจากการลงเล่นฟุตบอลเพียงแค่ครึ่งฤดูกาลก่อนย้ายทีมเท่านั้น

            พอเราหันมามองผู้เล่นที่ว่ากันว่าถูกนำเข้ามาเพื่อทดแทนมิดฟิลด์ชาวแซมบ้าอย่าง เซอร์ดาน ชากิรี่ ก็ต้องบอกเลยว่าผลงานค่อนข้างต่างกับทางคูตินโญ่โดยสิ้นเชิง โดยยิงไป 6 ประตู แอสซิสต์ 3 ประตู และมีค่าเฉลี่ยการยิงรวมถึงสร้างสรรค์โอกาสเพียงแค่ 1.1 และ 0.8 ครั้งตามลำดับ แถมทั้งหมดดันเกิดจากการลงเล่นกว่า 24 นัดอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ในฤดูกาลนี้เราจึงเห็นทางลิเวอร์พูลมักจะได้ประตูทั้งหมดเกินกว่าครึ่งจากสามประสานในแดนหน้าแทน

เพชฌฆาตในแดนหน้าที่แท้จริง

            ก่อนจะพูดถึงเรื่องนี้ เราก็ต้องให้ความยุติธรรมก่อนว่าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบมาก ๆ แล้ว โดยหนึ่งในเหตุผลที่ทางลิเวอร์พูลทำผลงานได้โดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง 2 ฤดูกาลติด ก็ต้องบอกเลยว่ากุญแจสำคัญก็อยู่ที่ศูนย์หน้าชาวบราซิลรายนี้นี่แหละ

            แต่ถ้าหากย้อนไปในฤดูกาล 2013/2014 ที่ยังมีดาวยิงชาวอุรุกวัยอยู่ล่ะก็ ต้องยอมรับว่าหลุยส์ ซัวเรซได้ฝากผลงานระดับไฮไลท์ลิเวอร์พูลในแบบที่ยากจะหาใครมาแทนได้ เพราะช่วยซัดฟุตบอลเข้าตาข่ายคู่แข่งไปมากถึง 31 ประตู และอีก 12 แอสซิสต์ แถมยังเลี้ยงผ่านคู่แข่งรวมถึงยิงประตูเฉลี่ยกว่า 2.8 และ 5.5 ครั้งตามลำดับ

            เมื่อหันกลับมามองทางฟีร์มิโน่แล้ว ด้วยบทบาทที่ต้องเล่นเป็นกองหน้าตัวหลอก จึงทำให้เจ้าตัวฝากผลงานทางสถิติไว้ได้แค่ 12 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ และกระชากผ่านคู่ต่อสู้กับสร้างโอกาสยิงได้เฉลี่ยต่อเกมเพียง 1.4 ครั้งกับ 2.2 ครั้งเท่านั้น

            ทำให้นำมาคิดได้ว่า หากทีมมีศูนย์หน้าไฮไลท์ลิเวอร์พูลจริง ๆ สักคนไว้คอยเปลี่ยนเกม เหมือนอย่างที่เคยมีซัวเรซในอดีตล่ะก็ ทีมอาจจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกก็ได้

การขาดหายไปของกัปตันตลอดกาลอย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ด

            ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าสตีเว่น เจอร์ราร์ดจะอยู่ในลิสต์ไฮไลท์ลิเวอร์พูลที่ยังขาดหายไปด้วย แต่พอมาค้นสถิติดูจริง ๆ กลับพบเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

            จากข้อมูลการเล่นในฤดูกาล 2014/2015 ซึ่งถือเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเจอร์ราร์ด ได้มีส่วนร่วมกับประตูไปทั้งสิ้นกว่า 10 ประตู แถมยังยิงเฉลี่ยต่อเกม 1.9 ครั้ง สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนกับผ่านบอลยาวเฉลี่ยต่อเกมมากถึง 1.8 ครั้งและ 5.3 ครั้งตามลำดับ

            ทีนี้เราลองนำสถิติข้างต้นที่อดีตกัปตันทีมรายนี้ฝากผลงานไว้ มาเทียบกับสถิติที่ดีที่สุดที่กองกลางทั้งหมดของสโมสรทำได้ในฤดูกาลนี้กันดีกว่า

            เริ่มจาก เจมส์ มิลเนอร์ ที่ฝากผลงานการยิง 5 ประตู แอสซิสต์ 4 ประตู และสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม 1.4 ครั้ง ตามด้วยทาง นาบี เกอิต้า ที่สร้างโอกาสยิงต่อเฉลี่ยต่อเกมไว้ที่ 1.1 ครั้ง และปิดท้ายด้วยกัปตันทีมชุดปัจจุบันอย่างจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ผ่านบอลยาวต่อเกมเฉลี่ยทั้งสิ้น 3.3 ครั้ง

            เชื่อว่าพอเห็นแบบนี้ หลาย ๆ คนคงตกใจกันไม่ใช่น้อย เพราะจะเห็นได้ว่าต่อให้นำเอาสถิติที่ดีที่สุดแต่ละด้านที่เหล่ากองกลางของสโมสรทำได้ในขณะนี้มาชี้วัด ยังไม่สามารถเทียบได้กับผลงานที่เจอร์ราร์ดในวัย 38 ก่อนอำลาทีมทำได้เลยด้วยซ้ำ ต้องยอมรับเลยว่าอดีตกัปตันรายนี้ได้ทิ้งช่องโหว่ขนาดใหญ่ไว้ให้สโมสร จากผลงานอันยอดเยี่ยมที่ตนเองเคยทำได้จริง ๆ

            ก็ต้องดูกันต่อไปว่าทางสโมสรจะสามารถปั้นไฮไลท์ลิเวอร์พูลเพื่ออุดรอยรั่วจากนักเตะชั้นนำที่ขาดหายไปได้หรือไม่ ส่วนใครที่อยากจะเป็นไฮไลท์ทำเกมให้ทีมตัวเองบ้าง หรืออาจกำลังมองหารองเท้าสตั๊ดดี ๆ สักคู่อยู่ล่ะก็ สามารถไปเลือกดูกันได้ที่ Shopee เลย กับแคมเปญ Summer Sale ที่จะมอบสิทธิประโยชน์ให้ทุกคนได้รับสินค้าในราคาที่โดนใจ จัดยาว ๆ ตั้งแต่วันที่ 5-31 พฤษภาคม 2562 ไปเลย

พบกับแคมเปญ Shopee Free Shipping month ช้อป 0บาท ก็ไม่มีค่าส่งทั่วไทย วันที่ 1-30 มิ.ย. 62 พร้อม 1 บาท Prize เล่นเกมทุกศุกร์ ลุ้นของรางวัลง่ายๆ Flash Sale เริ่ม 9 บ. รับเงินคืน 100% พร้อมสินค้าแบรนด์ คูปองส่วนลดทุกวัน